ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(กพฐ.)เปิดเผยถึงการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้น
ฐาน(สพฐ.)ว่าได้เตรียมการยกระดับการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์
โดยจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ทำหลักสูตรพัฒนาครู
ผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ในระดับประถมศึกษา
โดยเฉพาะครูไม่ได้จบวุฒิการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์
ให้มีความร฿และความมั่นใจในการสอนวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น
ซึ่งจะนำหลักสูตรวิชาวิทยาศาสตร์ทุกหัวข้อที่สอนในระดับประถมตอนต้นและตอน
ปลายมาคลี่ดูว่าจุดใดมีปัญหาเพื่อนำมาจัดทำเครื่องมือ
ชุดอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอน
รวมทั้งเครื่องมือชุดปฏิบัติการในการทดลองวิทยาศาสตร์เพื่ออบรมครู ทั้งนี้
คาดว่าจะมีครูประถมจากโรงเรียน10,000 โรงที่ได้รับการอบรมครั้งนี้
โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านด้านวิทยาศาสตร์ที่คร่ำหวอดมาให้ความรู้แก่ครู
"วิชาวิทยาศาสตร์เป็นวิชาชีพพื้นฐานสำคัญสำหรับนักเรียน แต่
สพฐ.ไม่ประสบความสำเร็จในการยกระดับผลสัมฤทธิ์นักเรียนให้สูงขึ้น
ซึ่งเมื่อวิเคราะห์หาสาเหตุพบว่าเป็นเพราะปัจจับความพร้อมของครูและสื่อการ
สอนที่ไม่ตอบสนอง ดังนั้นหากมีการอบรมครูผู้สอน
โดยเฉพาะคนที่จบไม่ต้องวุฒิได้มีความพร้อมและความมั่นใจในการสอนและการทดลอง
ก็จะทำให้เด็กได้สนุกที่จะเรียนรู้ ไม่ต้องเลียนแบบแห้ง
และจินตนาการถึงการทดลองต่างๆ เช่นที่ผ่านมา
ฉะนั้นเมื่อจับจุดปัญหาได้และแก้ไขปัยหาได้ตรงจุดก็จะส่งผลดีต่อเด็กใน
อนาคต"นายชินภัทรกล่าว
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า
นอกจากนี้ในการประชุมคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี (สสวท.)เมื่อเร็วๆนี้ ประธานบอร์ด สสวท.ได้เสนอว่าต่อไป
สสวท.ได้เสนอว่าต่อไป สสวท. และสพฐ.
ควรจะร่วมมือในการยกระดับเรื่องวิทยาศาสตร์มากขึ้นกว่านี้
โดยเสนอให้มีการตั้งศูนย์STEM (Science and Technology Engineering and
Methermatic)ขึ้นในทุกเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศเพื่อใช้เป็นกลไกการขับ
เคลื่อนการทำงานร่วมกัน ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะคล้ายกับศูนย์ ERIC ของ สพฐ.
ที่เน้นการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ แต่ศูนย์ STEM
จะเน้นการพัฒนาการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2556
จะเริ่มตั้งศูนย์ดังกล่าวได้ในเขตพื้นที่ที่มีความพร้อมขณะเดียวกัน
สพฐ.จะเตรียมการตั้งศูนย์อาเซียนศึกษาตามนโยบายของนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช
รมช.ศึกษาธิการให้ครบทั้ง 225
เขตพื้นที่การศึกษาทั้งเขตประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
แต่จะเริ่มดำเนินการในเขตที่มีความพร้อมก่อนตั้งเป้าที่ 1:10
ให้มีความรู้ความเข้าใจในด้านอาเซียน
--คมชัดลึก ฉบับวันที่ 20 ธ.ค. 2555 (กรอบบ่าย)--
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น